ฝรั่งเศส ยูโร 2024: วิเคราะห์เกมชนะ เบลเยี่ยม
ฝรั่งเศส(France) ภายใต้การคุมทีมของ ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ สามารถผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายในศึกยูโร 2024 ได้สำเร็จหลังจากเอาชนะเบลเยี่ยมไป 1-0 ในเกมที่ตึงเครียด และน่าตื่นเต้น แม้การทำประตูชัยจะเป็นจังหวะที่บอลแฉลบจาก ยาน แฟร์ทองเก้น ผู้เล่น เบลเยี่ยม(Belgium) สกัดเข้าประตูตัวเอง แต่ก็เพียงพอที่จะให้ทีมตราไก่ผ่านเข้าสู่รอบต่อไปที่ต้องพบกับ โปรตุเกส(Portugal)
1. ตราไก่หวนพึ่ง กรีซมันน์(Griezmann)
ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ ตัดสินใจเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นในเกมนี้ โดยเรียก อองตวน กรีซมันน์ กลับมาเป็นตัวจริงหลังจากนั่งสำรองในเกมรอบแบ่งกลุ่มที่เสมอ โปแลนด์ 1-1 การเลือกใช้กรีซมันน์เป็นตัวจริงนับเป็นการตัดสินใจที่สำคัญเนื่องจากเขามีบทบาทสำคัญในเกม แม้ว่าจะยังไม่สามารถทำประตูได้ แต่การครองเกมและการสร้างโอกาสทำให้ฝรั่งเศสได้เปรียบในการแข่งขันนี้
2. เบลเยี่ยมเปลี่ยนทัพสองราย
โดเมนิโก้ เตเดสโก้ กุนซือทีมเบลเยี่ยม ตัดสินใจโรเตชั่นทีมตัวจริงสองตำแหน่ง โดยดร็อป เลอันโดร ทรอสซาร์ และ ยูริ ตีเลอมันส์ และให้ หลุยส์ โอเพนด้า และ ยานนิค การ์ราสโก้ ลงเล่นแทน การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ทีมมีความสดใหม่ในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม เควิน เดอ บรอยน์ กัปตันทีมยังคงเป็นหัวใจหลักในการนำทีม
3. เกมกร่อยเกินคาด
แม้ว่าทั้งสองทีมจะเต็มไปด้วยนักเตะฝีเท้าดี แต่เกมนี้กลับเป็นไปอย่างน่าเบื่อและขาดความสนุก ฝรั่งเศสครองบอลได้มากกว่า 55.1%:49.9% และมีโอกาสยิง 19 ครั้ง แต่ส่งบอลเข้ากรอบได้เพียง 2 ครั้ง เช่นเดียวกับเบลเยี่ยมที่ยิงเข้ากรอบเพียง 2 ครั้งจาก 5 ครั้งที่ยิง นอกจากนี้ นักเตะฝรั่งเศสอย่าง กรีซมันน์ และ เอ็มบัปเป้ ก็ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มการทำประตูได้ดี
ฝรั่งเศสทะยานเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้จริง แต่ยังคงไม่มีการทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ในทัวร์นาเมนต์นี้ ประตูที่ได้มาจากลูกโทษและการสกัดบอลเข้าประตูตัวเองของฝ่ายตรงข้าม ทำให้ทีมตราไก่ต้องปรับปรุงเรื่องการจบสกอร์ให้ดียิ่งขึ้น
4. เดส์ช็องส์ เลือกตัวเปลี่ยนถูกต้อง
ในเกมนี้ เดส์ช็องส์ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย โดยให้ ร็องดาล โคโล่ มูอานี่ ลงเล่นแทน มาร์กกุส ตูราม ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แม้ โคโล่ มูอานี่ จะไม่ใช่ผู้ทำประตู แต่การเล่นของเขาช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความจัดจ้านให้กับทีม ส่งผลให้ฝรั่งเศสสามารถกดดันเบลเยี่ยมได้มากขึ้น
การเปลี่ยนตัวนี้เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความคิดรอบคอบและการอ่านเกมที่ดีของเดส์ช็องส์ ซึ่งช่วยให้ฝรั่งเศสสามารถเก็บชัยชนะได้ในที่สุด
5. เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (N’Golo Kanté): ตัวตึงที่ไม่มีใครคาดคิด
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่กลับมารับใช้ชาติอีกครั้งในศึกยูโร 2024 นี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของเขาในทีม แม้ว่าจะย้ายไปเล่นในซาอุดิอาระเบียกับทีม อัล อิตติฮัด การกลับมาของก็องเต้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากแฟนบอลและเพื่อนร่วมทีม เนื่องจากเขามีความมีวินัย รู้หน้าที่ของตัวเอง และเน้นเล่นอย่างรัดกุมแต่มีประสิทธิภาพ
ก็องเต้ยังทำสถิติใหม่ในการเป็นนักเตะที่ลงเล่นเกมยูโรโดยไม่เคยแพ้เลยมากนัดที่สุดในประวัติศาสตร์ จากผลงานพาทีมตราไก่กำชัย 7 นัด และเสมอ 5 นัดจากการลงสนาม 12 นัด
สรุป
การชนะเบลเยี่ยมและผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของ ฝรั่งเศส ยูโร 2024 เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถและการวางแผนที่ดีของ ดิดิเยร์ เดส์ช็องส์ การตัดสินใจเลือกตัวผู้เล่นและการเปลี่ยนตัวในเวลาที่เหมาะสมทำให้ฝรั่งเศสสามารถเก็บชัยชนะได้ แม้ว่าฝรั่งเศสยังคงต้องปรับปรุงการทำประตูจากจังหวะโอเพ่นเพลย์ แต่ความแข็งแกร่งและความมีวินัยในการเล่นของทีมทำให้พวกเขายังเป็นทีมที่มีโอกาสสูงในการคว้าแชมป์ ยูโร 2024
Leave a Reply